Category ข่าววันนี้

แม่น้ำหนึ่ง โพสต์ถึง ครูบาไก่

"แม่น้ำหนึ่ง" โพสต์ถึง "ครูบาไก่" 5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ลั่นให้โซเชียลอวยไปก่อน

จากกรณีในโลกโซเชียลมีการเปิดเผยว่า อดีตโยมอุปัฏฐาก ออกมาเปิดเผยเรื่องฉาวของ พระเกจิมีชื่อเสียงจังหวัดขอนแก่น มีความสัมพันธ์กับเพศชาย และคบหากันเป็นแฟน ส่วน แม่น้ำหนึ่ง เป็นลูกศิษย์

อดีตโยมอุปัฏฐากรายนี้ บอกว่า ตนเองคอยดูแลครูบา ไปทำบุญ ไปช่วยสร้างวัด ซึ่งอยู่มานานพอสมควร อยู่ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งทักมาหาตน โดยบอกฝากไปถึงครูบาว่าให้ปลดบล็อกให้หน่อย ตนก็ได้บอกครูบาให้ แต่ครูบาไม่ปลดบล็อก ชายดังกล่าวจึงโมโห บอกว่าตัวเองเป็นแฟนครูบา คบกับครูบามา 2 ปีแล้ว มีหลักฐานข้อความทุกอย่าง แล้วก็ส่งภาพข้อความแชทที่ครูบาพูดคุยมาให้ดู ชายดังกล่าวอ้างว่า ครูบาส่งภาพของลับมาให้หลายภาพ

ขณะที่ด้าน “ครูบาไก่” ทราบเรื่องแล้ว ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ โดยให้เป็นเรื่องของทางทนายความปฏิบัติการนั้น

ด้าน แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ในฐานะที่เป็นศิษย์ที่ให้ความเคารพ ครูบาไก่ โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊ก ภิรดา ธนโชติจินดา กล่าวว่า

“รับจ้างโกหก รับจ้างกระทำความผิด มีความผิดนะคะ ใส่ร้ายใส่ความให้ผู้อื่นเสียหาย อย่าพึ่งหงายการ์ดว่าตัวเองเป็นคนดี ตอนนี้ให้โซเชี่ยลอวยไปก่อน ปักหมุดรอชมต่อไป”

 

5 ปีไม่มีหมดศรัทธา
โดยก่อนหน้านั้น “แม่น้ำหนึ่ง” ได้แชร์ข้อความทางเพจ บุญนี้บารมีปู่ พร้อมใจความกล่าวว่า

5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ใครที่อยู่ด้วย ใกล้ชิดจะรับรู้ได้ถึง ความปรานีที่หลวงลุงมอบให้ตลอดมา ตลอดเวลาที่ได้กราบ หลวงลุง มา ประสบปัญหา และมารเข้ามาสารพัดรูปแบบ หนูก็ไม่เคยหมดศรัทธา ไปกราบพระครูบาแรกๆ มีทั้งหนี้สิน มีทั้งมรสุมชีวิต แต่หลวงลุงก็ทักว่า จะดีจะได้เป็นคนมั่งมีมาช่วยคน ให้หมั่นทำบุญทำทาน ให้ทาน ทำงานค้าขายตั้งใจ จะได้สมหวังดังปรารถนา 1 ปีถัดมาชีวิตหนูก็เปลี่ยนไป ใครที่ติดตามตั้งแต่ ขายบราปีนก จะทราบว่าพระครูบาไก่ เป็นพระที่หนู ก้มกราบได้ด้วยใจศรัทธา และไม่เคยรู้สึกสงสัยใดใดในท่านเลย

ลูกศิษย์พระครูบามีมากมาย ทั้งเจ้าของกิจการ ทั้งข้าราชการ ทั้งคนใหญ่คนโต ใครที่อยู่กับพระครูบามาจะรู้ว่าท่านไม่เคยอ้างอุตริเลย ใครบอกท่านดูดวงท่านก็จะ กล่าวว่าไม่ได้ดูดวงให้หนู ท่านแค่ให้กำลังใจ พลังใจว่าหนูจะมั่งคั่ง บอก ให้หนูมีพลัง มีเรี่ยวแรงสำหรับการหาเงิน และสุดท้ายหนูก็เสร็จ ด้วยความศรัทธาที่ว่า พระครูบาท่านทักว่าพวกเราจะรวย พวกเราจะตั้งใจขายของ จะได้มั่งคั่ง แล้วความตั้งใจก็ทำให้พวกเราสำเร็จ

แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา ครูบาไก่ โพสต์ถึงคนรับว่าจ้างโกหกใส่ร้ายป้ายสีปักหมุดรอคอย

พระที่ก้มกราบไม่เคยทราบสึกสงสัยใดในท่านเลย แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา ครูบาไก่ โพสต์ถึงผู้รับว่าจ้างโกหกใส่ร้ายปักหมุดรอคอย ทักจะดีจะได้เป็นเศรษฐีมาช่วยคน ตั้งใจทำมาค้าขายจนกระทั่งสำเร็จ

จากกรณีมีอดีตโยมอุปัฏฐาก “ครูบาไก่” นำภาพของลับที่บอกว่าเป็นของเกจิชื่อดัง ส่งให้กับผู้ชายซึ่งกล่าวหาว่าคบหากันเป็นแฟน ขณะที่ด้าน “ครูบาไก่” ทราบเรื่องแล้ว ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์โดยให้เป็นเรื่องของทางทนายความปฏิบัติการนั้น

ด้านแม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ศิษย์ที่ให้ความเคารพครูบาไก่ โพสต์ วันที่ 10 ม.ค.66 เป็นข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภิรดา ธนโชติจินดา ว่า รับจ้างพูดเท็จ รับแรงงกระกระทำความผิด มีความผิดนะคะ ใส่ร้ายป้ายสียัดเยียดข้อหาให้คนอื่นเสียหาย อย่าพึ่งหงายการ์ดว่า ตนเองเป็นคนดี ตอนนี้ให้โซเชี่ยลอวยไปก่อน ปักหมุดคอยดูต่อไป

 

แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา
ด้านแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์สนับสนุนด้วย

อาทิ ตามแม่โพสต์เลยค่ะคิดแบบนี้ ตั้งแต่แรกที่เห็น คนไลฟ์สดอะไรคืออวยแท้น้อมันผิดวิสัย ของการเผย ฟังบ่ขึ้นปานใด ใจร่มๆจ้ะ ศรัทธาท่านมากจ้ะตามจากแม่เลย , เป็นกำลังใจให้พระครูบาค่ะ พวกเราศรัทธาในตัวท่านค่ะ , รอดูต่อไปค่า เป็นต้น

ก่อนหน้านั้นแม่น้ำหนึ่งแชร์ข้อความทางเพจ บุญนี้บารมีปู่ โดยกล่าวว่า ศรัทธาตลอดมา เป็นภาพกับครูบาไก่ พร้อมแคปชั่นว่า 5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ใครที่อยู่ด้วย ใกล้ชิดจะรับรู้ได้ถึงความกรุณาที่ หลวงลุงมอบให้เสมอมา ตลอดเวลาที่ได้กราบหลวงลุงมา ประสบเจอกับปัญหา และมารเข้ามาสารพันรูปแบบ หนูก็ไม่เคยหมดศรัทธา ไปกราบพระครูบาแรกๆ มีทั้งหนี้ มีทั้งมรสุมชีวิต แต่หลวงลุงก็ทักว่า จะดีจะได้เป็นคนรวยมาช่วยคน ให้หมั่นสร้างบุญ ให้ทาน ทำงานค้าขายตั้งใจ จะได้สมหวังดังปรารถนา 1 ปีต่อมาชีวิตหนูก็เปลี่ยนแปลงไป

ใครที่ติดตามตั้งแต่ขายบราปีนก จะรู้ดีว่าพระครูบาไก่ เป็นพระที่หนูก้มกราบ ได้ด้วยใจศรัทธา และไม่รู้จักสึกสงสัยใดใดในท่านเลย ลูกศิษย์พระครูบามีมากมาย ทั้งเจ้าของกิจการ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งคนใหญ่คนโต ใครที่อยู่กับพระครูบามาจะรู้ดีว่าท่านไม่เคยกล่าวอ้างอุตริเลย ใครบอกท่านดูดวงท่านก็จะกล่าวว่าไม่ได้ดูดวงให้หนู ท่านแค่ให้กำลังใจ พลังใจว่าหนูจะร่ำรวย บอกเพื่อหนูมีพลัง มีเรี่ยวแรงสำหรับในการหาเงิน และสุดท้ายหนูก็เสร็จ ด้วยความเชื่อที่ว่า พระครูบาท่านทักว่าพวกเราจะมั่งมี พวกเราจะตั้งใจขายของ จะได้ร่ำรวย แล้วความตั้งใจก็ทำให้เราเสร็จ #บารมีชินวโร #ครูบาไก่ #ภิรดา

หวยงวดแรกของปี เลขเด็ด แม่น้ำหนึ่ง มาแล้ว 17/1/66 จัดเต็มเหมือนเดิม!

ปล่อยเลขเด็ดเอาใจคอ หวยเป็นงวดแรกของปี 2566 แล้ว สำหรับแม่น้ำหนึ่ง ภิรดา บุญนี้บารมีปู่ ที่ในงวดนี้ก็ยังคงให้แนวทางให้เหล่าคอหวยหวยนำไปลุ้นเสี่ยงโชคในการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันอังคาร ที่ 17 มกราคม 2566 มีทั้งเลขฟัน เลขชุด เลขสองตัว เลขสามตัว

โดยในงวด 17/1/66 นี้ แม่น้ำหนึ่ง ปล่อยเลขมา 2 ชุด ซึ่งจะเน้นไปที่เลข 5 เลขสองตัว 59-52-29 และ 79-75-72 เลขสามตัว 592 และ 7592

บิ๊กตู่ เปิดตัวไม่ปังก็จบเห่

“บิ๊กตู่”-รวมไทยฯ เปิดตัวไม่ปังก็จบเห่ !?

เชื่อว่าวันที่ 9 มกราคม สำหรับคอการเมือง รวมทั้งชาวบ้านหลายๆ คนคงจะจับจ้องไปที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีการเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนักการเมืองเต็มตัว โดยถือฤกษ์ดีสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกลายเป็นภาพจำแบบใหม่ สำหรับตัวเขา เนื่องจากในวันนั้นคงจะมีการสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติกันด้วย ทำให้กลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญ

ที่พูดว่าการเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากพรรคการเมือง ฝั่งตรงข้าม อย่างพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงพรรคการเมืองในขั้วเดียวกัน แต่เป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ที่น่าสังเกตก็คือ ก่อนจะมีงานเปิดตัวก็มีการ “แซะ” การขัดแข้งขัดขา ดิสเครดิตกันล่วงหน้ามาตลอด แต่ว่าหากดูอีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่า การขยับตัวของเขาครั้งนี้ย่อมสร้าง ผลกระทบกับคู่แข่งแน่นอน ถึงได้ออกโรงแสดงปฏิกิริยากันขนาดนี้

ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำหรับกำหนดการของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันที่ 9 มกราคม จะมีการโฟกัสไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียวเท่านั้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ เผยออกมาว่า การจัดกิจกรรมงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” และประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันดังกล่าว จะมีสมาชิก กรรมการสาขาพรรคร่วมด้วย ทั้งนี้จะมีการคัดเลือกกรรมการ ตามข้อกฎหมาย ที่กำหนดไว้ โดยการประชุมดังกล่าว จะมีตัวแทน จากคณะกรรมการ การเลือกตั้ง หรือ กกต. เข้าร่วมสังเกตการณ์อยู่แล้ว

ส่วนการเข้าสมัครสมาชิกพรรคแล้วก็เปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีขึ้นในตอนเย็น ซึ่งไฮไลต์ทั้งหมด จะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวแค่นั้น โดยไม่มีความกังวลถ้า กกต. จะเข้าร่วม สังเกตการณ์ด้วย เนื่องด้วยเป็นช่วงเวลาหลังราชการแล้ว

ส่วนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดจะย้ายเข้าสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ จะทยอยเปิดตัวหลังจากนี้ และก็จะมีเซอร์ไพรส์ ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าจะต้องรอให้ กกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งให้เสร็จก่อน แล้วหลังจากนั้นจะทยอยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครทุกภาค และก็ในตอนนี้พรรคมีการวางตัวผู้สมัครไว้ครบ เกือบทุกพื้นที่แล้ว ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง หรือใต้

นายเอกนัฏ ย้ำว่าการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ (ลุงตู่) จะมีการแสดงจุดยืนของนายกฯแล้วก็กล่าวถึงมิชชั่น และก็ทิศทางก้าวต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานเกือบหมื่นคน จะมีการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคด้วย ทั้งนี้จะยังไม่ประกาศชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรค เพราะจะต้องรอกระบวนการของ กกต.ก่อน แต่ยืนยันว่า ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต ของพรรคอย่างแน่นอน

ในการทาบทาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เข้าร่วมงานการเมือง กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ มองว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่น่าสนใจ ที่จะเข้าร่วมกับพรรค แต่มั่นใจว่าพล.อ.อนุพงษ์ จะคอยช่วยงานพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ เนื่องจากว่าถือว่าทั้ง 2 คนมีความผูกพันกัน

ลุงตู่

นั่นเป็นกำหนดการ การเปิดตัวด้านการเมืองครั้งสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา(บิ๊กตู่) และพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

เนื่องจากว่าอย่างที่รู้กันก็คือ มีการจับตามองกันทุกทาง รวมถึงการ “จับผิด” เพื่อหาช่องทางเล่นงานทางด้านกฎหมาย จากฝ่ายตรงข้าม แต่อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจก็ต้องดูที่ “สปีด” ของเขา ที่จะพูดออกมาแล้ว มันจะน่าสนใจขนาดไหน แล้วก็ที่บอกว่าเป็น “มิชชั่น” นั้นมันเป็นภารกิจ ที่ชวนให้ติดตาม สานต่อได้มากแค่ไหนอีกด้วย

ตามกำหนดการ ที่กำหนดเอาไว้ ต้องการที่จะให้งานนี้ออกมาแบบ “ยิ่งใหญ่อลังการ” สำหรับการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวของพรรค แบบไม่เป็นทางการ ด้วยเหตุดังกล่าว ทั้งจำนวนมวลชน ที่มาร่วม รวมถึงสมาชิกพรรค ว่าที่สมาชิกพรรค

ทั้งที่เป็น ส.ส. นักการเมืองระดับ “บิ๊กเนม” ทั้งหลายที่มาร่วม แล้วก็ให้กำลังใจ ภาพที่ออกมา จะต้องดูยิ่งใหญ่ คึกคัก น่าติดตาม ด้วยเหตุว่าถ้าทุกอย่างออกมา แบบธรรมดา พื้นๆ มันก็เสี่ยง ที่จะจบเห่ได้ง่ายๆ เช่นกัน

เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกับเป็น การเดิมพันที่สูงมาก ไม่ต่างจากการ “ลุยเดี่ยว” แบบนั่งเรือกันคนละลำกับ “พี่ใหญ่” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนาทีนี้แม้จะกล่าวว่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตัดขาดกันไม่ได้ แต่ว่าในทางการเมืองถือว่ากลายเป็น “คู่แข่ง” กัน เช่นเดียวกับที่พล.อ.ประวิตร เคยกล่าวไว้ว่า “ใครดีใครได้” นั่นแหละ

ขณะเดียวกันสำหรับ“บิ๊กตู่” นับว่าเป็นความหวังของบรรดา “แฟนคลับ” ที่เป็นผู้สนับสนุน มายาวนาน แล้วก็ที่สำคัญต้องมา “แบก” พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส.มากที่สุด อย่างน้อยในเบื้องต้น ก็ต้องเกินจำนวน 25 คน ให้ได้ก่อน เพื่อฝ่าด่าน การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี

ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับว่า “มีทีเด็ด” เพียงใดด้วย ด้วยเหตุว่าหาก“ออกตัวดี” มันก็ยิ่งเพิ่มพลังดูด สร้างแรงจูงใจให้กับคนที่ยังลังเล ได้รีบตัดสินใจ ได้เร็วขึ้น ว่ามาแล้ว “ไม่พลาด” อะไรประมาณนี้

เพราะว่าในสนามการเมืองนอกเหนือจากฝั่งตรงข้ามแล้ว ในกลุ่มพรรคพันธมิตรเดิมทุกพรรค ก็เตรียมลุยเต็มที่ ไม่มีใครยอมหลีกทางให้แน่นอน ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐของ “พี่ใหญ่” โดยเฉพาะในสนามภาคใต้ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่ต้องสู้กันมันหยดแน่ แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าเกิดการเปิดตัวเริ่มต้น ได้อย่างน่าสนใจ มันก็สามารถสร้างกระแส มีพลังดึงดูดตามมา แล้วก็ที่สำคัญหลายอย่างจะได้เห็นของจริง ด้วยสายตา ในวันสำคัญนี้แน่นอน !!

ศักดิ์สยาม สั่งสอบเปลี่ยนป้ายชื่อ

"ศักดิ์สยาม" ขีดเส้นสอบเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านบาท

“ศักดิ์สยาม” เซ็นตั้ง “รองปลัดฯ คมนาคม” นั่งหัวโต๊ะสอบข้อเท็จจริงเปลี่ยนป้ายชื่อ “สถานีกลางบางซื่อ” 33 ล้านบาท ขีดเส้น 15 วัน ส่งผลสอบ

เมื่อวันที่ 4 มกราคม66 นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ 5/2566 เรื่องตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการเปลี่ยนแปลงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของรฟท. โดยมีใจความว่า

ด้วยปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) เป็นต้นว่า เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ แล้วก็เว็บไชต์ผู้จัดการออนไลน์ เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงงานปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และก็ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร จำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2565 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและราคาที่จะต้องซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึง นายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะว่าไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ โดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อ ที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ ทั้งนี้ หากดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีการประกาศเชิญชวน หรือวิธีการคัดเลือกก่อนจะทำให้การใช้งบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวว่า ได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร และการใช้งบประมาณเหมาะสมกับปริมาณงานและราคากลางของกรมบัญชีกลางหรือไม่ และก็เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมตามหลักธรรมาภิบาลและก็รักษาผลประโยชน์ของชาติ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงงานแก้ไขป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และก็ตราสัญลักษณ์ของรฟท.

สถานีกลางบางซื่อ

ศักดิ์สยาม เซ็นชื่อแต่งตั้ง รองปลัดฯ คมนาคม นั่งหัวโต๊ะสอบข้อเท็จจริง โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้

1. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการรองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง)
2. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง
3. ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการโดยมีกรรมการ ประกอบด้วย
4. ผู้แทนสภาสถาปนิก
5. ผู้แทนสภาวิศวกร
6. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง
7. ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
8. ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงานเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
9. ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ผู้ช่วยเลขานุการกรมการขนส่งทางราง
10. ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่แล้วก็อำนาจในการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย แล้วก็พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งปวงที่เห็นว่า เป็นประโยชน์แก่การตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีที่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงใดที่กล่าวอ้างหรือพาดพิงถึงบุคคล เอกสาร หรือวัตถุใดที่จะเป็นประโยชน์แก่การตรวจสอบข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการฯ ทำการตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานนั้นไว้ให้ครบถ้วน ถ้าเกิดไม่อาจเข้าถึงหรือได้มาซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าว ให้บันทึกเหตุนั้นไว้ด้วย รวมทั้งให้คณะกรรมการเรียกบุคคลใดมาเป็นพยาน เพื่อชี้แจงหรือให้ถ้อยคำตามวัน เวลา แล้วก็สถานที่ที่กำหนดไว้ได้ ตลอดทั้งการพิจารณาทำความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมจัดทำรายงานผลของการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอผู้สั่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาภายใน 15 วัน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2566

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ

33 ล้าน แพงไปมั้ย? เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ แนะการรถไฟฯ แจงขั้นตอนตรงไปตรงมา

นายสราวุธ สราญวงศ์ เปิดเผยว่า สถานีกลางสร้างเสร็จแล้วในเดือนเมษายน 2564 เปิดใช้เป็นทางการเมื่อ 12 ส.ค. 2564 ไม่มีปัญหาเรื่องชื่อ แต่ว่าติดใจจากประเด็นที่มีการรับจ้างทำป้ายในราคา 33 ล้าน สงสัยว่ามีกระบวนการเช่นไร จึงไปค้นหาข้อมูล ปรากฏว่ามีการทำคำสั่งเรื่องจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งต้องเป็นความจำเป็นเร่งด่วน จึงตั้งข้อสงสัยว่า ใช้วิธีการแบบนี้แล้วเป็นราคา 33 ล้านบาท มันสูงเกินไปไหม มีคู่เทียบ หรือการดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ด้านนายประภัสร์ จงสงวน กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นกฎหมายใหม่ เนื่องจากแก้ในปี 2560 ซึ่งขณะที่ตนดำรงตำแหน่ง ไม่มีคำว่า “เฉพาะเจาะจง” คงจะสื่อถึงการที่ชี้เอาใครก็ได้ ในทางปฏิบัติก็สื่อไปในทางนั้น ได้ข่าวว่าคณะกรรมการจัดจ้างมีการสอบถามบริษัท 3 ราย จึงอยากทราบว่ามีเอกสารไปสอบถามทั้ง 3 รายไหม แล้วเขาตอบกลับมาเช่นไร ส่วนเอกสารที่การรถไฟฯ แจ้งออกมา ยังไม่เพียงพอที่จะให้เสนอราคาแบบถูกต้องได้ ไม่มีรายละเอียดเลย เนื่องจากผู้ที่เสนอราคาจะต้องรู้ว่าต้องทำอะไร

เรื่องนี้ทางผู้บริหารต้องเป็นคนชี้แจงเอง ถามตนแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเลย ถ้ามีการตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงสื่อ ด้วยเหตุว่ามีประเด็นเรื่องด่วนที่สุด พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการกลาง อ้างเหตุผลต่างๆ ในส่วนนี้จะต้องมีข้อมูลเฉพาะ ว่าใช้กฏเกณฑ์อะไรเลือกบริษัทเป็นผู้รับจ้าง กระบวนการจ้างบริษัท และก็ราคากลางที่ตั้งเปรียบเทียบแบบไหน ซึ่งตนเองนั้นไม่ติดใจเรื่องราคา

ถ้าการรถไฟแสดงความจริงใจ เอาคนที่เกี่ยวข้องมานั่งชี้แจง แต่การที่อธิบายทางออนไลน์ มันไม่อาจจะตอบคำถามได้ แล้วที่เขียนมา คนธรรมดาทั่วไปอ่านยิ่งเกิดคำถาม ถ้าหากดูตามเนื้องานราคาก็ถึงขนาดนั้นได้ แต่ว่ามีข้อจำกัดทางข้อมูลที่ได้มา ยกตัวอย่างเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยว่าตกลงราคาที่เซ็นสัญญากันคือเท่าไรกันแน่ เนื่องจากยิ่งดูแล้วยิ่งสับสน ทางที่ดีจัดตั้งโต๊ะแถลงข่าว เชิญสื่อทุกสำนัก ใช้ดูเอกสารทุกอย่างเลย น่าจะเป็นการการปัญหาได้เด็ดขาดที่สุด เพื่อไม่ให้การรถไฟฯ เสียชื่อ

ด้านนายสราวุธ เปิดเผยว่า จะถามว่าถูกหรือแพง พอกระบวนการไม่มีคู่เทียบว่าราคาถูกหรือแพง จึงเกิดข้อสังสัยว่าสรุปราคาถูกหรือแพงเนื่องจากไม่อาจจะเปรียบเทียบได้ เลยอย่างเสนอให้ทางการรถไฟฯ ออกมาอธิบาย ถ้าเกิดมีการตั้งคำถามหรือตอบข้อสงสัยต่างๆ ก็จะให้ความกระจ่างได้ ที่สำคัญคือเป็นการแสดงหลักธรรมมาภิบารในการใช้งบประมาณรัฐให้มีความคุ้มค่า ประเด็นนี้มองว่าราคาจะแพงหรือไม่แพง ถ้าหากมีการชี้แจงถึงขั้นตอนที่มีความตรงไปตรงมา มีขั้นตอนก็จะเข้าใจได้ สิ่งสำคัญคืออยู่ที่กระบวนการที่การรถไฟอ้างว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้วิธีเฉพาะเจาะจงเพราะอะไรให้สังคมได้รับทราบ

ซึ่งนายประภัสร์ เผยว่า ถ้าเกิดมีความจำเป็นเร่งด่วนจริง ก็ควรจะเสร็จตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญา เพราะหนังสือที่ผู้ว่าฯ สั่งการตั้งแต่ 27 กันยายน ถ้าเกิดจะทำจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้ด้วยเหตุว่าทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้ว จนกระทั่งปลายปี และเอาเหตุที่ไม่ควรเป็นเหตุทำให้เดือดร้อนประชาชน เนื่องมาจากการปิดเฉพาะรถขบวนยาวที่หัวลำโพงในวันที่ 19 เดือนมกราคม 66 เป็นการทำให้คนยากจนเดินทางลำบาก ควรจะเตรียมเรื่องเหล่านี้ให้เรียบร้อย

สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

กรณีที่การรถไฟฯ แถลงผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก

นายสราวุธ เปิดเผยว่า รับฟังได้ระดับหนึ่ง ถ้าหากมีการจัดโต๊ะแถลงข่าวคงจะมีความเหมาะสม และได้ข้อความที่ชัดเจนมากยิ่งกว่า เนื่องจากว่าถ้าชี้แจงเป็นหนังสืออย่างงี้ ไม่มีโอกาสที่ผู้เกี่ยวข้องจะสอบถามได้ เนื่องจากว่าไม่มีข้อมูลอะไรมาเปรียบเทียบ

ส่วน นายประภัสร์ กล่าวว่า อธิบายไม่ตรงประเด็น ด้วยเหตุว่าคนสงสัยราคาแล้วก็วิธีการได้มาของผู้รับเหมา พออ้างอิงว่าไปสืบราคามา ดังนั้นก็ต้องมีเอกสารข้อมูลในการสืบราคามา ก่อนได้เป็นราคากลางมา 34 ล้านบาท จึงเป็นคำถามว่าได้ 34 ล้านมาจากอะไร ด้วยเหตุว่าถามตนแล้ว หากเห็นเอกสารแค่นั้น ก็บอกไม่ได้ว่าคิดราคาเท่าไร

ในขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รับธรรมนูญไทย เผยว่า คิดว่าเป็นการดำเนินการที่ขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากว่าทุกกลุ่มบริษัทก็ทำได้ จึงไม่ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดจ้างแบบวิธีการจำเพาะเจาะจง แต่เงื่อนไขที่ รฟท. แถลงออกมาไม่ได้เข้าเงื่อนไขเลย หากเปิดให้มีการประมูลแข่งขันเป็นธรรม น่าจะได้ราคาที่ถูกลง ตนมองว่า 33 ล้านมันแพงไป ดูตามสเปกแล้วบริษัททั่วไปเขาก็ทำได้ ทั้งนี้จะให้ตรวจสอบคณะกรรมการผู้กำหนดราคากลางด้วย โดยจะใช้วิธีการยื่นให้ สตง.ตรวจสอบเบื้องต้น หากมีพิรุธมากกว่านี้ก็ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อ

สุดท้าย นายประภัสร์ พูดว่า ตนเองเห็นตรงกันเรื่องกระบวนการได้มาในการจัดซื้อป้าย ถ้าเกิดต้องเหตุผล ถ้าหากผู้บริหารจัดแถลงข่าวเอาทุกอย่างเผยต่อสื่อ ถ้าหากทุกอย่างยังคลุมเครือ แล้วให้ประชาสัมพันธ์ทำแบบนี้ จะกลายเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง อ่านแล้วยิ่งสร้างความสงสัยในหลายๆ เรื่อง ดังนั้นต้องพิจารณาว่าการใช้ประชาสัมพันธ์ทำแบบนี้มันถูกต้องหรือไม่

4 ล้านคนแห่ต้อนรับ ทีมชาติอาร์เจนตินา

4 ล้านคนแห่ต้อนรับ "ทีมชาติอาร์เจนตินา" ต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ฉลองแชมป์กับแฟนบอล

นักเตะ ทีมชาติอาร์เจนตินา จะต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อสังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 หลังแฟนบอลพากันแห่มาต้อนรับ 4 ล้านคน จนจะต้องยกเลิกขบวนรถแห่

วันที่ 21 ธันวาคม 65 ความเคลื่อนไหวของ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่กำลังอยู่ในระหว่างการสังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 อยู่ที่บ้านเกิด

บรรดานักเตะ ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้เดินทางไปที่ทำการสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา

แต่ระหว่างจะออกจากที่นั่นพวกเขาจำเป็นต้องยกเลิกขบวนแห่แชมป์กลางคัน เพราะรถบัสฝ่าฝูงชนที่มาต้อนรับกว่า 4 ล้านคนไม่ไหว ระหว่างเดินทางไปอนุสาวรีย์ โอเบลีสโก เด บัวโนส ไอเรส ทำให้จะต้องเปลี่ยนแปลงแผนไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินเหนือแฟนบอลตามจุดต่างๆแทน

หมู่คนมากไม่น้อยเลยทีเดียวทำให้ขบวนพาเหรดรถเมล์โอเพ่นท็อปหยุดชะงักลง ขบวนนักฟุตบอลไม่อาจจะไปถึงอนุสาวรีย์กลางโอเบลิสโกได้ตามแผนเนื่องจากว่าความรู้สึกกลุ้มใจด้านความปลอดภัยเหตุเพราะขนาดของกลุ่มคน ที่สื่อท้องถิ่นประเมินว่ามีคนสูงถึง 4 ล้านคน บรรดานักเตะถูกย้ายจากรถบัสพาเหรดของพวกเขาไปยังเฮลิคอปเตอร์แทน

กาเบรียล เอร์รูติ พิธีกรหญิงของประธานาธิบดีเขียนในทวิตเตอร์ว่า ‘แชมป์โลกกำลังบินอยู่เหนือท้องถนนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นรถถัดไปเนื่องด้วยความปิติยินดีที่ระเบิดขึ้น’

รูปภาพที่นำมาจากโทรทัศน์บอกให้เห็นผู้คนทั่วเมือง รวมถึงผู้ที่รอรอบๆโอเบลิสโก และบนถนนหลวงที่อยู่บริเวณรอบๆพยายามที่จะมองเห็นแชมป์ที่กลับมาของพวกเขา

ฟ้าขาว

มาเทียส โกเมซ ช่างโลหะวัย 25 ปี บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่สุดยอด มันเหลือเชื่อ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับคุณในชีวิต”

ขณะที่รถบัสเปิดโล่งวิ่งไปทั่วเมือง ผู้เล่นเต้นรำและเชียร์กับแฟนๆที่วนรอบรถบัส ตำรวจต้องขวางผู้คนเพื่อให้รถยนต์สามารถเคลื่อนไปด้านหน้าได้สำหรับการเดินทางที่อืดอาดไปยังใจกลางเมือง แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถไปไกลกว่านั้นได้

‘เขาไม่ให้เราทักทายผู้คนที่อยู่ที่อนุสาวรีย์โอเบลิสโกได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คุ้มกันเราไม่อนุญาตให้เราเดินหน้าต่อไป” ชิควี ทาเปีย ประธานสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา (AFA) ทวีตในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

ผู้คนชูธงของเมสซี่และ ดิเอโก้ มาราโดน่า เล่นเครื่องดนตรีหรือปีนเสาตะเกียงหรือป้ายรถเมล์

ถนนเริ่มโล่งหลังจากเตะกลับไปโดยบางคนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เห็นทีมอย่างใกล้ชิด

เมืองหลวงของอาร์เจนตินาอยู่ในบรรยากาศของการฉลองตั้งแต่ความมีชัยเหนือประเทศฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่กาตาร์ ซึ่งมีส่วนช่วยหันเหความทุกข์ยากด้านเศรษฐกิจในประเทศอเมริกาใต้ที่ต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในโลก

เกือบไป เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่าง “อาร์เจนตินา” แห่ขบวนสังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก

เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างที่ทาง “อาร์เจนตินา” แห่ขบวนฉลองแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022” ในประเทศบ้านเกิด หลังมีนักเตะหวุดหวิดโดนสายไฟเกี่ยวคอ รวมทั้ง “ลิโอเนล เมสซี” ด้วย

วันที่ 21 เดือนธันวาคม 65 ควันหลงหลังจากที่ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา จากการนำทัพของ ลิโอเนล สกาโลนี เถลิงบัลลังก์แชมป์ “บอลโลก 2022” ที่ประเทศกาตาร์ ได้เสร็จ หลังแม่นโทษดับ “ตราไก่” ทีมชาติประเทศฝรั่งเศส 4-2 (ในเวลา 90 นาที เสมอ 2-2, จบ 120 นาที เสมอ 3-3) ทำให้เป็นแชมป์ยุคที่ 3 ในประวัติศาสตร์ และถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยโทรฟีดังกล่าวที่ถวิลหามา 36 ปีอีกด้วย

จากการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้นทำให้พลเมืองชาวอาร์เจนตินาราว 4 ล้านคน มารวมตัวเพื่อต้อนรับเหล่าบรรดาฮีโร่ของชาติกับการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเขา ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนจะร่าเริงแจ่มใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจากความสำเร็จครั้งนี้

แต่ทว่าระหว่างทางที่กลุ่มนักเตะและทีมงานนั่งรถบัสเปิดหลังคาแห่ฉลองแชมป์ “บอลโลก 2022” ในประเทศบ้านเกิดไปรอบๆเมือง ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อกลุ่มนักฟุตบอลที่นั่งอยู่บนหลังคาอย่าง ลิโอเนล เมสซี, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดริโก เดอ ปอล, อังเคล ดิ มาเรีย รวมทั้ง นิโคลัส โอตาเมนดี หวุดหวิดโดนสายเคเบิลเกี่ยวคอ โดยรายที่สองถึงกับจะต้องเสียหมวกไปจากการโดนสายเคเบิลนี้เกี่ยวอีกด้วย.

เฮลิคอปเตอร์ฉลองแชมป์

แข้ง”อาร์เจนตินา” ยกเลิกรถแห่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สังสรรค์แชมป์โลกแทน

นักเตะอาร์เจนติน่า จะต้องสังสรรค์แชมป์โลกกับแฟนบอลทางเฮลิคอปเตอร์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังมีแฟนบอลพยายามกระโจนขึ้นรถบัสของนักเตะ

ทัพนักเตะอาร์เจนติน่า หอบถ้วยแชมป์โลก สมัยที่ 3 กลับถึงกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะฉลองไปยังสถานที่สำคัญต่างๆทั่วเมือง โดยมีแฟนบอลออกมาร่วมสังสรรค์ความสำเร็จกันมากยิ่งกว่า 4 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลอาร์เจนติน่าได้ประกาศวันหยุดพิเศษ เพื่อแฟนบอลได้มาร่วมเฉลิมฉลองตำแหน่งแชมป์โลกที่คอยมาถึง 36 ปีด้วยกัน

เดิมทีกำหนดการของขบวนรถแห่จะไปจบที่ อนุสาวรีย์โอเบลิสก์โซ่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงบัวโนสไอเรส แต่ก็จะต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากว่าปัญหาด้านความปลอดภัย

“เมสซี” เกือบตกรถแห่ ทีมชาติอาร์เจนตินา สังสรรค์แชมป์บอลโลก 2022 โชคดีหลบสายไฟทัน

“ลิโอเนล เมสซี” เฉียดสิ้นชื่อในช่วงสังสรรค์แชมป์บอลโลก 2022 ที่บ้านเกิดอาร์เจนตินา เกือบจะถูกสายเคเบิลเกี่ยวคอตกตกรถแห่ โชคดีมุดหลบทัน

วันที่ 20 เดือนธันวาคม 2565 นักเตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์บอลโลก 2022 ที่กาตาร์ นำโดย ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีม ผู้ครอบครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เดินทางถึงที่บ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทันทีที่เดินทางถึงทัพนักเตะฟ้าขาวได้ขึ้นรถบัสเปิดหลังคาแห่ฉลองถ้วยแชมป์ไปตามถนน มีชาวอาร์เจนตินาหลายแสนคน ออกมาคอยต้อนรับเหล่าฮีโร่ ก่อนมุ่งหน้าเพื่อเข้าสู่ที่ทำการสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา แม้ว่าจะเป็นตอนๆรุ่งสว่างจนกระทั่งรุ่งสว่างก็ตาม

อย่างไรก็ดี มีเหตุการณ์หวาดเสียวนิดหน่อย เมื่อนักเตะที่ขึ้นไปอยู่ข้างบนของรถบัสเปิดหลังคา นำโดย ลิโอเนล เมสซี, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดรีโก เดอ ปอล, อังเคล ดิ มาเรีย และ นิโคลัส โอตาเมนดี เกือบจะถูกสายเคเบิลเกี่ยวร่วงตกจากรถ โชคดีที่ทั้งหมดก้มหลบทันรถ โชคดีที่ทุกคนก้มหลบทัน

พยากรณ์อากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.เหนือ-อีสาน หนาวเย็น อุณหภูมิลดฮวบ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.เหนือ -อีสาน อุณหภูมิต่ำลง 3-5 องศา อากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพมหานครปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศา ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นสูง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ – 24 ธันวาคม 2565 (คาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้า) ตั้งแต่ตอนวันที่ 18 – 20 ธันวาคม 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากเมืองจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะแบบนี้จะก่อให้เมืองไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสานอุณหภูมิจะลดน้อยลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคทิศตะวันออก อุณหภูมิจะต่ำลง 2 – 4 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และ ทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร ทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงไปกว่า 4 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 เดือนธันวาคม 65 รอบๆความกดดันอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างจะแรงยังคงปกคลุมไทยตอนบน และ ทะเลจีนใต้ ลักษณะแบบนี้จะก่อให้เมืองไทยตอนบนมีอุณหภูมิเปลี่ยนบางส่วน แต่ยังยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกในเช้าตรู่

อุณหภูมิลดฮวบ

พยากรณ์อากาศวันนี้ ข้อพึงระวัง

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

ขอให้ประชากรรอบๆไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องมาจากอากาศที่หนาวเย็นลง และระวังภัยที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากลมแรงและอากาศแห้ง

ขอให้พลเมืองบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งไว้ด้วย

ชาวประมงรอบๆอ่าวไทย และทะเลอันดามันออกเรือด้วยความระวัง และเรือเล็กควรจะงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565

พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ วันที่ 18 – 24 ธันวาคม 2565

กรุงเทพและปริมณฑล

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 16 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ภาคเหนือ

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันที่ 18 – 21 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 11 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 10 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม.

วันที่ 22 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 12 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 14 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 30 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 16 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

พยากรณ์อากาศวันนี้ ภาคตะวันออก

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 15 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1– 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 3 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค : มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 18 – 19 ธ.ค. 65 อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส

งาน Big Mountain 2022

ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์ ออกร้านครั้งแรก งาน บิ๊กเมาน์เท่น

ควันหลงงาน Big Mountain 2022 ผู้ค้าในงาน โพสต์ประสบการณ์ ลงทุนไปกว่า 2 แสน ออกร้านครั้งแรกในงาน แต่สุดท้ายเจ๊งไม่เป็นท่า ยอมรับผิด เนื่องจากไม่เคยไปมาก่อน

วันที่ 14 ธันวาคม65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านค้าที่ไปเปิดร้านขายภายในเทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดแห่งระดับประเทศ อย่าง บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022 (Big Mountain Music Festival 2022) หรือ BMMF12 ที่ออกมาให้ความเห็น ทำนองว่า จบงาน จบชีวิต ไปกับบิ๊กเมาน์เท่น

พร้อมอธิบายว่า การไปเปิดร้านครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิต เนื่องมาจากลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท เงินลงทุน ก็จำเป็นต้องไปกู้มา อ้างถึงว่าได้คำรับรองจากผู้จัดงาน ที่ให้เตรียมอาหารไว้วันละ 2,500 เสิร์ฟ จึงรู้สึกว่ายอดขายงานนี้คงจะได้เป็นแสนแน่นอน

งาน บิ๊กเมาน์เท่น

แต่เมื่อเปิดขายวันแรก กลับพบว่า งานนี้ไม่ใช่มหกรรมคอนเสิร์ต Big Mountain 2022

แต่เป็นเสมือนงานเดินทางไกล งานแฟชั่น ฯลฯ เลอะเทอะมาก การจัดการระบบน้ำ น้ำแข็ง ห้องน้ำ ที่นั่งของลูกค้า และอื่นๆกับค่าที่ 5 หมื่นบาท สรุปว่าไม่มี

ทำให้แนวทางการขายในงานนี้ ขาดทุน ฉิบหาย และ ว่าเข็ดหลาบแล้วกับงานขายฝัน ตอนนี้เห็นอกเห็นใจเมียมาก ที่ไหนจะเจ๊ง และต้องหาเงินจ่ายและชำระหนี้

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งแสดงความเห็นใจผู้ค้า ขณะที่บางส่วนก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า อาหารอย่างต้มเล้ง บางทีอาจจะไม่เหมาะกับงานแบบนี้ เพราะว่ารับประทานไม่สะดวก ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนยังเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ครั้งคราวผู้ค้าอาจจะจะต้องศึกษาพื้นที่ก่อน ว่าเหมาะสมกับอาหารที่ตนเองขายหรือเปล่า

ก่อนที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จะเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม ถึงสาเหตุที่เลือกไปขายในงานนี้ ว่า

1. มีทีมงานติดต่อมาจากงานใหญ่ระดับประเทศ

2. ทีมงานแจ้งว่าร้านเราถูกคัดเลือกให้เข้าไปขายเล้งในงาน และทีมงานได้คัดร้านค้าเพื่อให้หลากหลาย ไม่ใช่ใครอยากไปก็ไปได้

3. คนแสนกว่าคน ขายบัตรหมดภายใน 1 วัน

4. ให้ร้านค้าเตรียมของให้พร้อมขาย ขั้นต่ำวันละ 2,500 เสิร์ฟ เพื่อให้เพียงพอต่อลูกค้า (บางร้านอ้างว่าทีมงานให้เตรียม 3,000-5,000 เสิร์ฟ)

และด้วยความมั่นใจว่าทีมงานทำการตลาดมาดี มีความเห็นว่างานใหญ่ บวกกับทีมงานพูดว่า ขนาดหมูกระทะและยำยังไปเลย และว่ามีที่นั่ง มีพื้นที่ให้ความสะดวกให้ลูกค้า ทางร้านจึงโอเค

แต่เมื่อไปถึงงานวันแรก จึงทราบว่าไม่ใช่ เปิดร้านมา แดดส่อง ฝุ่นเพียบ น้ำ และ ถังที่ไว้เพื่อใส่น้ำแข็งก็เอารถเข้ามาส่งไม่ได้ จึงล่าช้า และ ไม่เพียงพอ พวกเราก็เปลี่ยนแปลงเมนูอาหาร แต่หลักสำคัญคือ ทำอะไรก็ไม่ทันแล้ว ลำบากแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับในความบกพร่องครั้งนี้ ที่ไม่เป็นมืออาชีพพอ ไม่เคยไปงานดังกล่าวเลยสักครั้ง นี่คือหนแรก มั่นใจและสำคัญตัวมากเกินไป และ ไม่เรียนรู้ให้ดีเอง หลังจากนี้ยอมรับสภาพ และ ต้องกลับมาเดินหน้าขายเล้ง หาเงินจ่ายและชำระหนี้ที่กู้ไปลงทุนถัดไป

นอกเหนือจากนี้ ยังมีคนเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ครอบครองเฟซบุ๊ก ไม่ใช่ร้านเดียวที่เจ๊ง แต่กลับเงียบเหงาทั้งโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนหัววัวกับไข่เจียว ซึ่งข้าวไข่เจียวน่าจะเป็นอาหารที่ขายง่ายที่สุดของงานนี้ โดยคนส่วนมากไปกองอยู่ที่โซนหลัก ทำให้ร้านค้าบริเวณนี้แสนสาหัสกันทั่วทุกคน

พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น แสดงป้ายที่ชัดเจน อยู่สูง และ มีแสงไฟเด่น, มีแผนสำหรับการที่และไกด์บุ๊กแจกผู้ร่วมงานทุกคนอย่างทั่วถึง เนื่องจากในงานสัญญาณไม่ดี ถึงแม้ว่าจะเซฟรูปแผนที่ไป แต่หน้างานมันไม่เหมือนในแผนที่เลย แนวต้นไม้ แนวกั้นก็ไม่มี พอมาหน้างานก็งง อีกทั้งไกด์บุ๊กอาหารก็จะต้องมี.

โผล่อีก ! ผู้ค้าแฉ Big Mountain 2022 ระบบสุดแย่ เจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินชำระหนี้

ผู้ค้าอีกรายโผล่แฉคอนเสิร์ต Big Mountain ทีมงานระบบสุดห่วยแตก ห้ามรถยนต์น้ำเข้าจนถึงขายของไม่ได้ แถมการันตรี 3,000 เสิร์ฟ สุดท้ายเจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินใช้หนี้

ล่าสุด (14 ธ.ค. 2565) มีผู้ค้าอีกคนที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ เตือนคนอื่นๆให้ตัดสินใจให้ดีก่อนเข้าร่วมเป็นร้านค้างานบิ๊กเม้าท์เท่น โดยระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจส่งร้านเข้าไปคัดเลือก เนื่องจากชอบไปงานเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยมีความคิดว่าน่าจะทดลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดี เป็นการต่อยอดธุรกิจและโปรโมตร้านไปในตัว คาดหวังกำไรนิดหน่อย ขอแค่ไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว พอถึงวันประกาศผล ทางทีมงานโทร. มาแจ้งว่าได้รับคัด

ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์

แผนผังร้านค้าถูกแปลงกะทันหัน

พอใกล้วันงานมีการส่งผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนพื้นที่ เข้าไปภายในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหายใช้ไม่ได้ เลยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ตรงนี้เข้าใจและเห็นว่าเหตุผลพอฟังได้ แต่คิดอีกทีก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน เพราะอะไรไม่เลื่อนออกมาด้านนอก เพื่อลูกค้าเข้าถึงง่าย พบร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเพราะเหตุใดทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เพราะเหตุว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของผู้สนับสนุน

ความอลหม่านในวันงาน

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านสั่งน้ำดื่มทำครัวไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขายคนภายในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่ง สาเหตุมาจากรถขนส่งของทางโรงงานน้ำกินเข้าพื้นที่ไม่ได้ การ์ดไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆร้านไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้ พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถยนต์เข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 06.00-08.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง

ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการใช้รถเข็นเลย และไม่อนุญาตให้รถน้ำดื่มกับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วย น้ำกิน 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ห่างกันมาก ถึงมากที่สุด รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง พอๆกับจะต้องเข็นรถอย่างต่ำ 100 รอบ ไม่ถือว่าบางร้านสั่งใส่เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำดื่มยางระเบิด งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า

ร้านหมูกระทะ แทบเจ๊ง

ร้านหมูกระทะ แทบเจ๊ง โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว

ร้านหมูกระทะ ชลบุรีแทบเจ๊ง โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว ยันซื้อวัตถุดิบจากห้างดัง

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง ร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี ตั้งอยู่ริมถนนศุขประยูร ขาเข้าพนัสนิคม ช่วงสะพานทางรถไฟดอนหัวฬ่อ หมู่ 2 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องสื่อจาก นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี ว่า หลังจากที่มีข่าวพบหมูแช่สารฟอร์มาลีน ส่งตามร้านหมูกระทะ และ มีเกรียนคีย์บอร์ดได้เอาชื่อของร้านเจ๊น้อย หมูกระทะ ไปคอมเมนต์ในเพจต่างๆทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด

และหลังจากที่เป็นข่าวทำเอาลูกค้าหายสะอาดไม่มีลูกค้ามาตลอดนานยาวนานหลายวัน ได้รับความเดือดร้อนหนัก โดยบรรยากาศภายในร้านพบมีโต๊ะโดยประมาณ 100 โต๊ะ พบว่ามีลูกค้าที่มารับประทานแค่โต๊ะเดียว

จากการซักถาม นางสาวเดือนเพ็ญ ลูกค้าที่มารับประทานกล่าวมาว่า หลังจากที่รู้ข่าวว่าพบหมูแช่ฟอร์มาลีนส่งตามร้านหมูกระทะ ตนก็ตกใจ เพราะเหตุว่าปกติชอบทานอยู่แล้ว แต่ตนได้มาทานที่ร้านเจ๊น้อยเพราะเหตุว่ามั่นใจในวัตถุดิบ เพราะเหตุว่าทางร้านได้ลงเพจชี้แจงว่าวัตถุดิบซื้อมาจากห้างดังที่วางใจได้ มาหมักด้วยสูตรของทางร้าน และตนก็มาทานประจำ หมูสดใหม่ และ น้ำจิ้มก็อร่อยทำให้มั่นใจทุกคราวที่มา และวันนี้ก็ได้พาลูกและครอบครัวมาทานที่ร้าน ตนก็การันตีว่าร้านเจ๊น้อยไม่ใช่ร้านที่เอาของไม่ดีมาขายแน่นอน เพราะเหตุว่าตนก็เป็นลูกค้ามานานยาวนานหลายปี

ทางด้านนายธวัฒน์ชัย เจ้าของร้านกล่าวมาว่า หลังจากที่มีข่าวว่าพบหมูแช่ฟอร์มาลีนใน จ.ชลบุรี แล้วมีคนไปคอมเมนต์ว่า ร้านเจ๊น้อย ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดและได้รับผลพวงมากจากปกติลูกค้านั่งทานวันละ 20-30 โต๊ะ ทุกวันนี้มีเพียงแค่วันละ 1 โต๊ะบ้าง 2 โต๊ะบ้างทำให้เดือดร้อนอย่างมาก เพราะเหตุว่าข่าวที่ออกไปว่าทำส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี ทำให้คนคิดเหมารวมกันหมด และยังมีพวกที่ไม่ทราบไปลงชื่อของร้านตนจนกระทั่งเสียหาย ตอนนี้ร้านกว่า 20 สาขากระทบหนักเพราะเหตุว่าลูกค้าไม่กล้าเข้ามานั่งทาน และไม่ใช่แค่ร้านเจ๊น้อยและยังมีอีกหลายร้านที่ขายหมูกระทะได้รับผลพวงเช่นกัน

ตนการันตีว่าไม่มีส่วนเอาของจากร้านที่เป็นข่าวแน่นอน เพราะเหตุว่าตนมีหลักฐานในการซื้อวัตถุดิบจากห้างมากว่า 10 ปี แล้วสามารถเช็คได้เลย ตนต้องการที่จะให้ลูกค้ากลับมาทานเหมือนเดิมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพราะเหตุว่าวัตุดิบนั้นได้สั่งและคัดมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นสดใหม่ มาหมักด้วยสูตรของทางร้าน และ น้ำจิ้มก็เป็นของทางร้านทำเอง ตนก็อยากฝากถึงโชเชียลหรือสื่อออนไลน์ต่างๆเวลาลงข้อมูลควรลงให้แจ่มกระจ่างไม่ใช่ลงให้คนคิดไปกันเอง แล้วมาคอมเมนต์ว่าร้านผู้อื่นแบบไม่มีข้อมูลเพราะเหตุว่าทำให้ได้รับความเสียหายไปกันหมด

ร้านหมูกระทะ จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว

ร้านหมูกระทะ เมืองชลเดือดร้อน ลูกค้าหาย ผวาข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน

นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี จังหวัดชลบุรี ชี้แจง การันตีว่า ร้านตนไม่เกี่ยวข้องกับหมูแช่สารฟอร์มาลีนที่เป็นข่าว แต่โดนคนเอาไปจู่โจม จนกระทั่งลูกค้าหายหมด ไม่มีใครมากินยาวนานหลายวันแล้ว จาก 100 โต๊ะที่รองรับไว้บางทีก็มีมากินโต๊ะเดียว

นายธวัฒน์ชัย เปิดเผยว่า ร้านตนได้รับผลพวงจากหัวข้อนี้มาก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะเหตุว่ามีข่าวว่า ส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี คนไปเหมารวมร้านตน จนกระทั่งตอนนี้ 20 สาขาที่เปิดกระทบหนัก การันตีว่า วัตถุดิบที่สั่งมากนั้น เอามาจากห้างสรรพสินค้า และ ซื้อกันมากว่า 10 ปีแล้ว สามารถเช็กได้ ตอนนี้ต้องการที่จะให้ลูกค้ามั่นใจกลับมาทานเหมือนเดิม เรามีสูตรและหมักน้ำจิ้มเอง ตอนนี้เสียหายกันไปหมดแล้ว

ด้านลูกค้าที่มากินเปิดเผยว่า ตนถูกใจทานร้านนี้ เพราะเหตุว่ามั่นใจวัตถุดิบ ตอนมีข่าวก็ตกใจ แต่มองเห็นเขาชี้แจงทางเพจว่าซื้อจากห้างมา และมาหมักเอง ก็เชื่อใจ เพราะเหตุว่าเรารับประทานก็หมูสดใหม่ น้ำจิ้มอร่อย ตนเป็นลูกค้ามานานยาวนานหลายปี มั่นใจว่าร้านไม่น่าจะนำของไม่ดีมาขายแน่

ขณะที่ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาเปิดเผยผลตรวจ ตัวอย่างเนื้อสัตว์แช่แข็งในร้านหมูกระทะ พื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี 25 ตัวอย่าง ประกอบด้วย หมึกกรอบ / สไบนาง / หมูสด / หมูปรุงรส / ตับหมู / ไส้ตัน / ไตหมู และแมงกะพรุน เบื้องต้นพบฟอร์มาลีน ในตัวอย่างหมึกกรอบ 7 ตัวอย่าง และสไบนาง 3 ตัวอย่าง ส่วนอาหารประเภทอื่น ตรวจไม่พบทุกตัวอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะส่งตัวอย่างอาหารทั้งหมด ไปส่งไปทำการตรวจการันตีผลอีกที นอกเหนือจากนี้ เจ้าหน้าที่จะด้วยกันออกสุ่มเพิ่มเติมเป็นระยะ ในทุกพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชากร

ร้านหมูกระทะ โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน

ร้านดังเมืองชล ยันไม่เคยใช้หมูแช่ฟอร์มาลีน บอบช้ำกระทบหนัก ลูกค้าหาย

บอบช้ำยิ่งกว่าโต๊ะริม ร้านดังเมืองชล กระทั่งถึงไม่เคยสั่งหมูแช่ฟอร์มาลีน เปิดเผยคนแชร์มั่ว จนกระทั่งกระทบหนัก ลูกค้าหาย จาก 100 โต๊ะ เหลือมากินโต๊ะเดียว

วันที่ 12 ธ.ค.2565 นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี จ.ชลบุรีร้องกับทางข่วาสด การันตีว่าร้านตนไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแช่สารฟอร์มาลีน ที่เป็นข่าว แต่โดนคนเอาไปจู่โจม จนกระทั่งลูกค้าหายหมด ไม่มีใครมากินยาวนานหลายวันแล้ว 100 โต๊ะที่รองรับไว้บางทีก็มีมากินโต๊ะเดียว

นายธวัฒน์ชัยเปิดเผยว่า ร้านตนได้รับผลพวงจากหัวข้อนี้มาก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะเหตุว่ามีข่าวว่าส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี คนไปเหมารวมร้านตน จนกระทั่งตอนนี้ 20 สาขาที่เปิดกระทบหนัก

การันตีว่าวัตถุดิบที่สั่งมากนั้น เอามาจากห้างสรรพสินค้า และซื้อกันมากว่า 10 ปีแล้ว สามารถเช็กได้ ตอนนี้ต้องการที่จะให้ลูกค้ามั่นใจกลับมาทานเหมือนเดิม เรามีสูตรและหมักน้ำปรุงรสเอง ตอนนี้เสียหายกันไปหมดแล้ว

ด้านลูกค้าที่มากินเปิดเผยว่า ตนถูกใจทานร้านนี้ เพราะเหตุว่ามั่นใจวัตถุดิบ ตอนมีข่าวก็ตกใจ แต่มองเห็นเขาชี้แจงทางเพจว่าซื้อจากห้างมา และมาหมักเอง ก็เชื่อใจ เพราะเหตุว่าเรารับประทานก็หมูสดใหม่ น้ำจิ้มอร่อย ตนเป็นลูกค้ามานานยาวนานหลายปี มั่นใจว่าร้านไม่น่าจะนำของไม่ดีมาขายแน่

ซามูเอล เบตแมน จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

“ซามูเอล เบตแมน” เจ้าลัทธิในสหรัฐฯ ผู้มีภรรยา 20 คน

จับเจ้าลัทธิ ผู้มีภรรยา 20 คน ชายที่สมมติตัวเองเป็นศาสดาในสหรัฐฯ มีภรรยามากกว่า 20 คน และบางคนอายุไม่ถึง 18 ปี

สำนักสอบสวนกึ่งกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ บอกว่า ซามูเอล แรปปีลี เบตแมน (Samuel Rappylee Bateman) อ้างว่า เป็นพระโองการจากพระผู้เป็นเจ้าให้เขามีเซ็กส์กับเหล่าภรรยาของเขา

เดี๋ยวนี้ เบตแมน อายุ 46 ปี เขาถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาเมื่อเดือน เดือนกันยายน ก่อนหน้านี้ ฐานทำลายบันทึกข้อมูล และกีดกันการปฏิบัติงานของข้าราชการ กรณีการไต่ถามว่า มีการลักลอบค้ามนุษย์ ส่งเด็กข้ามรัฐเพื่อบำเรอกามไหม

ถัดมา เอฟบีไอได้เผยเอกสารเบิกความ ที่ลงรายละเอียดของตัวเบตแมน ซึ่งสื่อมวลชนสนใจเป็นอย่างมาก

เอฟบีไอ ตรวจสอบพบว่า เบตแมน เป็นอดีตสมาชิกโบสถ์สาขาย่อยของ Fundamentalist Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints หมายความว่า

จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

“ศาสนจักรมูลฐานนิยมของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย”

หรือ โบสถ์เอฟแอลดีเอส ซึ่งเป็นนิกายที่แยกออกมาจากศาสนจักรมอร์มอน ก่อนที่เขาจะออกมาตั้งกลุ่มลัทธิของตนเอง

ข้าราชการบอกว่า เบตแมนได้รับการผลักดันทางการเงินจากผู้ติดตาม ที่ยินยอมมอบภรรยาและลูกสาวของตนเอง ให้เป็นภรรยาของเบตแมน

และถ้าเกิดมีสมาชิกคนใด ไม่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นศาสดา เขาก็จะลงโทษอย่างหนัก โดยเมื่อเดือน สิงหาคม ตำรวจจับเบตแมน หลังพบว่า เขาใช้รถเทรลเลอร์ลากถูเด็กผู้หญิง 3 คน อายุ 11-14 ปี

หากแม้เขาจะยื่นประกันตัวออกไปได้ แต่ว่าถัดมาก็ถูกจับอีก ฐานทำลายบันทึกข้อมูลและกีดกันการปฏิบัติงานของข้าราชการ

ก่อนหน้าที่ผ่านมา ข้าราชการกรมป้องกันเด็กแห่งรัฐแอริโซนา ได้ช่วยเหลือเด็กผู้หญิง 9 คน ออกมาจากลัทธิของเบตแมน แล้วส่งไปอาศัยยังสถานสงคราะห์เด็ก แต่ว่าภายหลัง เด็กผู้หญิง 8 คนได้แอบหนีออกมาจากสถานสงเคราะห์ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

เจ้าหน้าที่รัฐวอชิงตัน ติดตามตัวพวกเขากลับมาได้ หลังมีข้าราชการตรวจเจอรถยนต์คันหนึ่งที่หนึ่งในภรรยาของเบตแมน ขับรถอยู่ โดยเมื่อเข้าไปตรวจสอบ ก็เลยพบว่า คนขับ และผู้โดยสารที่เป็นภรรยาอีก 2 คนของเบตแมน พยายามลักพาตัวเด็กพวกนี้กลับไป ซึ่งคดีนี้ ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน

เมื่อตำรวจสอบปากคำภรรยาคนที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว พบว่า เธอกลายเป็นภรรยาของเบตแมน ในเวลาที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี และออกลูก หลังอายุเข้า 18 ปีได้เพียง 7 เดือน

อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อข้าราชการสอบปากคำเด็กผู้หญิง 9 คนที่เป็นภรรยาของเบตแมน พวกเขาไม่ได้กล่าวถึงการล่วงละเมิดทางเพศโดยเบตแมนแต่อย่างใด โดยกำหนดเพียงว่า มีสัมพันธ์สวาทกับเขา

ศูนย์กฎหมายแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ กำหนดว่า “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย” นับว่าเป็นกลุ่มที่ปลุกปั่นความเกลียดชังในสหรัฐฯ โดยเมื่อปี 2011 แกนนำของศาสนจักรแห่งนี้ ถูกตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีพ ฐานรังแกเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน ที่เขารับมาเป็นภรรยา

นอกจากเรื่องเพศสัมพันธ์ ข้าราชการยังกำหนดเพราะ เบตแมนเคยให้ภรรยาเป็นของขวัญกับสาวกเพศชาย โดยอ้างว่าเป็นคำบัญชาจาก ‘พระบิดาจากสวรรค์’ เช่นกัน ในเวลาที่สาวกก็เกื้อหนุนเบตแมนด้วยการมอบเงิน รวมถึงมอบภรรยาและลูกของตัวเองให้มาเป็นภรรยาของแบตแมน

จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

จับเจ้าลัทธิ ผู้มีภรรยา 20 คน FBI ยังกล่าวหาด้วยว่า เบตแมนจะลงโทษสาวกที่ไม่ปฏิบัติกับเขาในฐานะศาสดา

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เบตแมนถูกจับเมื่อเดือนสิงหาคมก่อนหน้านี้ ในตอนที่กำลังเข็นรถพ่วงกับเด็กผู้หญิง 3 คน อายุ 11-14 ปี ถัดมาเขาได้รับการประกันตัว แต่ว่าก็โดนจับกุมอีกในเดือนกันยายน ข้อหาทำลายหลักฐาน

ข้อหาดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เกิดจากการที่เขาสั่งให้สาวกเข้าไปลบแอพฯ Signal ของเขาเอง ซึ่งเป็นช่องทางที่เขาใช้สื่อสารกับสาวกและภรรยาของเขา ส่วนกรณีของการล่วงละเมิดทางเพศ เอกสารของ FBI ก็บอกว่า มีความน่าจะเป็นที่เขามีเคยมีเซ็กส์กับเยาวชนในอดีต

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เบตแมนเคยเป็นสมาชิกในสาขาหนึ่งของคริสตจักรที่เรียกว่า ‘Fundamentalist Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints’ หรือ ‘FLDS Church’ ซึ่งแยกมาจากลัทธิมอร์มอนอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาตั้งลัทธิเองในที่สุด

เบตแมนยังมีความเกี่ยวข้องในฐานะสาวกของ ‘วอร์เรน เจฟฟ์ส’ (Warren Jeffs) เจ้าลัทธิ FLDS Church ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในรัฐเท็กซัส ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กด้วย แต่ว่าเจฟฟ์สก็เคยเขียนประกาศตัดไมตรีกับเบตแมนจากในคุก

เวลานี้ เบตแมนยังไม่ยอมรับยอมรับทั้งยังในข้อหาล่วงละเมิดเด็ก และข้อหาทำลายเอกสารหลักฐาน ซึ่งสำหรับข้อหาหลัง จะมีการสืบสวนในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ส่วนเดี๋ยวนี้เขาก็ยังถูกจองจำอยู่ที่คุกในรัฐแอริโซนาถัดไป

บุกจับ หมอปลอม

บุกถึงเตียงคลินิก จับ 8 หมอปลอม หลอกเสริมความงาม อึ้ง! บางรายเรียนจบแค่ ป.6

ตำรวจสอบสวนกลางร่วม สบส. – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเปิดยุทธการ “หยุดเถื่อน” ปราบ “หมอปลอม” ตรวจค้น 8 จุด จับ 8 หมอปลอม เจอ 1 ในนั้นจบเพียงแค่ ป.6

(6 ธันวาคม65) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

และก็นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภญอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการ เรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างหมอเถื่อนและก็คลีนิกเสริมความงามเถื่อน เบื้องตันมีการฟ้องร้องคดีกับผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง 836 รายการ

เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและก็ สบส. ให้สืบสวนกรณีมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงามให้ประชาชนในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2565 ก็เลยทำการสืบสาวแล้วก็ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, สบส. และก็ สสจ. ประจำแต่ละจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร,ชลบุรี, จ.สมุทรสงคราม และก็ จ.ปทุมธานี รวมทั้งหมด 8 จุด ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ โดยเป็นสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาต 4 แห่ง ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ เป็นยาและก็เวชภัณฑ์ 109 รายการ, เครื่องมือแพทย์และก็อุปกรณ์สำหรับการตรวจคนตรวจรักษา 57 รายการ, เวชระเบียน 670 รายการ

คลินิกผิดกฎหมาย

ฟ้องร้องคดีกับผู้ต้องหา(หมอปลอม) ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต 8 ราย

โดยผู้ต้องหา 8 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่ว่าอยู่ ระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ 2 ราย, ปริญญาตรี 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ราย ประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 ราย และก็ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย

1.น.ส.ธนัศร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไมได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา โดยเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วก็อาศัยประสบการณ์ ที่เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน ซึ่งทำมาแล้วราวๆ 1 ปี

  1. น.ส.ศรีษุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี (ทำการรักษานอกเวลาที่ขออนุญาต) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” โดยเรียนจบระดับชั้น ปวส. แล้วก็ทำมาแล้วราวๆ 6 ปี
  2. น.ส.ณปาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไมใด้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา แล้วก็ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วราวๆ 5 ปี

4.นายจิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยทำมาแล้วราวๆ 1 ปี

นางสาวศศิพัชร์ (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วราวๆ 1 ปี

  1. นายกรกรต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรี โดยเคยมีประสบการณ์การทำงานในสถานพยาบาลมาก่อน จากนั้นมาเปิดคลินิกแล้วก็ตรวจรักษาเอง
  2. น.ส.บุญพา(สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยศึกษาวิธีการฉีดเสริมความงามด้วยตนเองจากช่องทาง YouTube แล้วหลังจากนั้นสั่งยาต่างๆ จากช่องทางออนไลน์แล้วก็ทดลองฉีดหน้าตนเองก่อนในช่วงแรก
  3. น.ส.(สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีประสบการณ์เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน แล้วก็ทำมาแล้วราวๆ 3 เดือน

สถานพยาบาลเถื่อน

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พูดว่า

การฉีดสารเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ นั้น ถือได้ว่าเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะต้องให้บริการ โดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ แล้วก็กระทำในสถานพยาบาล ที่ถูกตามกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการเดินสาย ให้บริการนอกสถานพยาบาลแต่อย่างใด ถ้าพบเห็นการให้บริการฉีดเสริมความงามนอกสถานที่ ขอให้ตั้งข้อหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งการฉีดสารเสริมความงาม ด้วยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์นั้น ย่อมมีผลกระทบต่อสภาพทางด้านร่างกายซึ่งอาจมีความร้ายแรงถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหล เข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรือมีการติดเชื้อ

กรม สบส.ก็เลยขอเน้นย้ำให้เลือกรับบริการในด้านของการเสริมความงามกับสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยก่อนรับบริการก็ควรตรวจสอบหลักฐาน 5 ประการ ซึ่งสถานพยาบาลจะต้องแสดง ได้แก่ 1. ป้ายชื่อคลินิกต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2. มีการแสดงใบอนุญาตเปิดกิจการคลินิก เลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก 3. มีการแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล 4. มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกที่เป็นปีปัจจุบัน และ 5. มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจ

โดยสามารถตรวจสอบชื่อสถานพยาบาลได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลแล้วก็การประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th) แล้วก็ตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (w.w.tmc.or.th) ถ้าไม่เจอ หรือสถานพยาบาลแสดงหลักฐานไม่ครบถ้วน ไม่สมควรเข้ารับบริการ และก็ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือทาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.อนันนต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมาให้พี่น้องประชาชนว่า ตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาล แพทย์และก็ขั้นตอนการดูแลและรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการในด้านของการเสริมความงามเนื่องจากว่าการเสริมความงาม เป็นขั้นตอนและก็วิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแล้วก็เกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง แล้วก็แจ้งเตือนไปยังคนที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ปลอมตัวเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือสถานพยาบาลเถื่อน หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ฟ้องร้องคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

หมอของขวัญ แจงดราม่า สะกิด แจ็คสัน หวัง

หมอของขวัญ แจงดราม่า สะกิด ‘แจ็คสัน หวัง’ งานปาร์ตี้ ยอมรับพลาด นึกว่าจอยๆกัน

จากกรณีดราม่าอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อหมอของขวัญ หรือ พ.ญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนัง ได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ แจ็คสัน หวัง กับเหล่าเซเลบริตี้ไทย ซึ่งข้างในงานมีการเดินกรอกแอลกอฮอล์ให้กับเหล่าเซเลบริตี้ชาย ในงานอย่างสนุกสนาน ก่อนที่หมอของขวัญ จะสะกิดให้กรอกให้ตนบ้าง แต่ แจ็คสัน ก็ส่ายหน้าและไม่ได้กรอกให้

ทั้งนี้ เหล่าแฟนคลับมองว่าเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง ต่อมีการแชร์คลิปดังกล่าวมาแล้วข้างต้น จนถึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน มอของขวัญ หรือพ.ญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนังโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงดราม่าแจ็คสัน หวัง บอกว่า วันนี้ทีมงานหมอให้หมออ่านคอมเมนต์ในติ๊กต็อก และเพจแฟนคลับแจ็คสัน หวัง บางบุคคลด่าหมอแรงมาก เรื่องสะกิดพี่แจ็คในงาน รวมถึงเรื่องการนั่งดูคอนเสิร์ตในห้องกระจก

หมอขอชี้แจงก่อนว่า ตัวหมอเองเข้างานคอนเสิร์ตโดยบัตรโคสปอนเซอร์ ซึ่งห้องกระจกนี่ก็ทะลุไปนั่งโซนเดียวกับบัตรอื่นในฮอลล์ แต่หมอติดประชุมกับผู้บริหารก่อนเริ่มคอน ก็เลยจำเป็นต้องนั่งปิดประตูในนั้นด้วยเหตุว่าเสียงดัง พอคอนเริ่มไฟในห้องจะดับ หมอก็ออกไปนั่งในฮอลล์ปรกติค่ะ ด้วยเหตุว่ารักและชอบใน Jackson Wang ถึงได้เสนอให้บริษัทในกรุ๊ปพันธมิตรเข้าร่วมเป็นผู้ส่งเสริมและสนับนุนคอนเสิร์ต หมอไม่เคยเคลมเรื่องซื้อบัตรนะคะ เรามีวิธีการซัพพอร์ตศิลปินได้หลายวิธีค่ะ

ส่วนเรื่องต่อแถวกรอกเหล้า ชนแก้วในปาร์ตี้ หมอไม่รู้เรื่องมาก่อน ด้วยเหตุว่าก็พึ่งจะเคยถูกใจศิลปินเกาหลีชายเป็นครั้งแรก (ไม่ใช่เชื้อชาตินะคะ แต่ดังมาจาก Got7 ที่เป็นวงบอยแบนด์เกาหลี อารมณ์แบบลิซ่า) ว่าเขามีธรรมเนียมไม่แตะต้องสีกา (น้องๆเขียนแบบนี้) พลาดจริงๆก็นึกว่าจอยๆกันในปาร์ตี้สนุกสนานไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อ่ะวิ ในอนาคตจะระแวดระวังให้มากขึ้นค่ะ

สำหรับอากาเซ่ที่ด่าหมอแรงมากๆก็เข้าใจในความรักและหวงในตัวศิลปิน แต่ก็อยากที่จะให้อ่านโพสต์นี้ที่หมออธิบายนะคะ เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น

แจ็คสัน หวัง งานปาร์ตี้

หมอของขวัญ ชี้แจงกรณี ดราม่า แจ็คสัน หวัง GOT7 หลังโดยถล่มยับ

กลายเป็นกรณี ดราม่า ขึ้นมาทันที เมื่อโซเชียลมีการปรากฏคลิปวิดีโอขณะที่ หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ อยู่ในปาร์ตี้ร่วมกับ นักร้อง ชายหนุ่มสุดฮอตอย่างแจ็คสัน หวัง GOT7 หลังจบ เวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 IN BANGKOK

โดยในคลิป หมอของขวัญ ได้ร่วมเข้าแถวต่อคิว ให้ชายหนุ่มแจ็คสัน หวัง กรอกแอลกอฮอล์ใส่ปาก แต่กลับโดนเมิน ซึ่ง หมอของขวัญ ก็ยังคงสะกิดแจ็คสัน หวัง เพื่อเอาแอลกอฮอล์กรอกปากตนอยู่หลายคราว แต่ก็ไม่สำเร็จ

ทำให้หลายคนออกมาติชมกันอย่างหนัก ว่าพฤติกรรมของ หมอของขวัญ ไม่เหมาะสม หากเป็นแฟนคลับแจ็คสัน หวัง จริงจะทราบว่าชายหนุ่ม แจ็คสัน จะให้เกียรติผู้หญิง โดยจะไม่สัมผัสตัวแบบไม่เหมาะสม หรือนำแอลกอฮอล์กรอกปากผู้หญิงเด็ดขาด

รีวิวคอนเสิร์ต “แจ็คสัน หวัง” ศิลปินผู้ขมักเขม้นที่จะเป็นนักสร้างความสบายให้ผู้ชม

คอนเสิร์ตแจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) ในไทย จบลงไปแล้ว สำหรับ “JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25-27 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เรียกได้ว่าเป็นโชว์ระดับการเกิดที่จัดเต็มถึง 3 วัน และเมืองไทยได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางทางปลายแรกที่แจ็คสัน หวัง เลือกมาเปิดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์

Magic Man

“Magic Man” อัลบั้มใหม่ล่าสุดของแจ็คสัน หวัง ที่ขนเพลงดังมาโชว์จัดเต็ม

“Magic Man” เป็นชื่ออัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของแจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) หนึ่งในสมาชิกวง GOT7 ที่ปล่อยให้ฟังอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อัลบั้มสามารถทะยานสู่ชาร์ตสูงสุดอันดับ 5 ในประเทศเกาหลีใต้ และอันดับ 15 ของชาร์ตเพลง Billboard 200 ในอเมริกา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายเพลง Team Wang Records

ซึ่งแจ็คสัน หวัง ได้ร่วมทำหน้าที่โปรดิวซ์ด้วยตัวเอง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกในด้านของการทดสอบทางดนตรีและซาวนด์ใหม่ๆที่ถือได้ว่าเป็นการพิสูจน์ตัวตนและความสามารถอีกขั้นในฐานะศิลปินผู้เดียวของแจ็คสัน หวัง

สำหรับได้แรงบันดาลใจของอัลบั้ม “Magic Man” มาจากภาพยนตร์เรื่อง Inception (2010) ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน โดยอยากที่จะให้แฟนๆมองดูดนตรีเป็นศิลปะที่มีความอิสระ แปลความหมายได้หลายรูปแบบ ทุกคนสามารถเชื่อมโยงได้กับประสบการณ์และมุมมองของตัวเองได้ ทั้งด้านมืดมนและด้านสว่าง

นอกจากนี้ ยังได้รับแรงบันดาลใจจาก “Prince” ศิลปินชื่อดังระดับตำนานคนอเมริกัน ทำให้มู้ดแอนด์โทนของอัลบั้ม Magic Man เต็มไปด้วยเสน่ห์ของกลิ่นร็อกยุค 70s ที่กระปรี้กระเปร่า รวมเสียงเพอร์คัชชันหนักๆและริฟฟ์กีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ ประสมประสานกับการแสดงด้วยศิลปะสมัยใหม่และการเต้นแบบร่วมยุค

ในส่วนของเนื้อหาเพลงจะเปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวชีวิตของคนๆ หนึ่งที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่หลากหลายในชีวิต เริ่มตั้งแต่การค้นหาตัวเอง การเดินตามความฝัน การเผชิญกับความผิดหวังและความโดดเดี่ยวระหว่างเส้นทาง สุดท้ายแล้วก็จะนำไปสู่การเรียนรู้และทำความเข้าใจ พร้อมเชื่อมั่นและอ้าแขนรับ “ความหวัง” ที่เชื่อกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงอาจกล่าวได้ว่าอัลบั้ม “Magic Man” ก็เปรียบเสมือนไดอารี่ส่วนตัวที่เขาเลือกใช้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในช่วงวัยรุ่น การเป็นศิลปินฝึกหัด รวมไปถึงความอ้างว้างหลังต้องห่างกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ในวง GOT7 ซึ่งเขาเชื่อว่าความรู้สึกต่างๆ ระหว่างเส้นทางเหล่านี้ ล้วนมีความเป็นสากลที่สามารถเชื่อมโยงกับแฟนเพลงอีกหลายๆ คนได้นั่นเอง